แมกนิจูดมาตรวัดความสว่างของดาว
![]() |
Hipparchus 190-120 BC Cr: Wikipedia |
มาตราวัดความสว่างของดาวเราใช้ระบบแมกนิจูดหรือโชติมาตร เชื่อหรือไม่ว่าระบบนี้คิดมาตั้งแต่ 129 ปีก่อนคริสตศักราชโดยฮิพพาร์คัส (Hipparchus) นักดาราศาสตร์ชาวกรีก
ฮิพพาร์คัสจัดทำรายการดาวที่รู้จักโดยเรียกดาวที่สว่างที่สุดว่า “of the first magnitude” แปลว่า “ใหญ่ที่สุด” หรือ “สว่างที่สุด” ดวงที่สว่างรองลงมาเรียกว่า “of the secound magnitude” หรือสว่างอันดับสอง เรื่อยไปจนถึงดาวหรี่ที่สุดที่เขามองเห็นได้เรียกว่า “of the sixth magnitude”
เวลาผ่านไปเกือบสามร้อยปีในปี คศ. 140 คลาวดิอัส พโตเลมี (Claudius Ptoleme) นำระบบนี้มาใช้ในรายชื่อดาวของเขาด้วย วิธีการและระบบที่มีดาวเล็กที่สุดคือ “แมกนิจูดที่หก” นี้ใช้งานได้ดีมาถึง 1400ปี
จนกระทั่ง...
กาลิเลโอได้ใช้กล้องดูดาวที่สร้างขึ้นมาส่องดูท้องฟ้าแล้วพบว่ายังมีดาวที่สว่างน้อยกว่าตามองเห็นหรือแมกนิจูดที่หก
ตั้งแต่นั้นมาอุปกรณ์ดูดาวก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กล้องสองตาที่ใช้ทั่วไปก็ไปได้ถึงแมกนิจูดที่ 9 กล้องดูดาวสะท้อนแสงขนาด 6 นิ้วก็อาจดูได้ถึงแมกนิจูดที่ 13 ส่วนกล้องฮับเบิ้ลที่ลอยอยู่ในวงโคจรก็ไปได้จนถึงแมกนิจูดที่ 31
ระบบแมกนิจูดก็ได้รับการปรับปรุงตลอดมาเช่น มีการกำหนดอัตราส่วนเฉพาะลงไปเป็นสมการ หรือนักดาราศาสตร์ได้เพิ่มแมกนิจูดที่ 0 และตัวเลขติดลบเพื่อแก้ปัญหาว่าดาวแมกนิจูดที่ 1 สว่างกว่าสมการที่คิดไว้ ทำให้เรามีดวงอาทิตย์สว่างแมกนิจูด -26.7 ดวงจันทร์ แมกนิจูด -12.5 ดาวศุกร์สว่างที่สุดราว -4.4 ดาวซิริอุสสว่าง -1.4
ปัจจุบันความสว่างของดาวจะได้รับการวัดโดยเครื่องมือเฉพาะเรียกว่า Photometer ทำให้แก้ปัญหาไปได้มาก อันที่จริงรายละเอียดของระบบแมกนิจูดยังมีอีก แต่ขอแบ่งไว้เล่าให้ฟังวันหลัง
ฮิพพาร์คัสรู้เข้าคงดีใจที่ระบบที่เริ่มต้นไว้ได้รับการใช้งานมากว่าสองพันปีนะครับ
ตั้งแต่นั้นมาอุปกรณ์ดูดาวก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กล้องสองตาที่ใช้ทั่วไปก็ไปได้ถึงแมกนิจูดที่ 9 กล้องดูดาวสะท้อนแสงขนาด 6 นิ้วก็อาจดูได้ถึงแมกนิจูดที่ 13 ส่วนกล้องฮับเบิ้ลที่ลอยอยู่ในวงโคจรก็ไปได้จนถึงแมกนิจูดที่ 31
ระบบแมกนิจูดก็ได้รับการปรับปรุงตลอดมาเช่น มีการกำหนดอัตราส่วนเฉพาะลงไปเป็นสมการ หรือนักดาราศาสตร์ได้เพิ่มแมกนิจูดที่ 0 และตัวเลขติดลบเพื่อแก้ปัญหาว่าดาวแมกนิจูดที่ 1 สว่างกว่าสมการที่คิดไว้ ทำให้เรามีดวงอาทิตย์สว่างแมกนิจูด -26.7 ดวงจันทร์ แมกนิจูด -12.5 ดาวศุกร์สว่างที่สุดราว -4.4 ดาวซิริอุสสว่าง -1.4
ปัจจุบันความสว่างของดาวจะได้รับการวัดโดยเครื่องมือเฉพาะเรียกว่า Photometer ทำให้แก้ปัญหาไปได้มาก อันที่จริงรายละเอียดของระบบแมกนิจูดยังมีอีก แต่ขอแบ่งไว้เล่าให้ฟังวันหลัง
ฮิพพาร์คัสรู้เข้าคงดีใจที่ระบบที่เริ่มต้นไว้ได้รับการใช้งานมากว่าสองพันปีนะครับ
![]() |
ภาพ The School of Athens โดย Rafael ฮิพพาร์คัสคือคนที่ถือทรงกลมท้องฟ้าทางขวามือของภาพ Cr: Wikipedia |
Comments
Post a Comment